บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
แม็คลาเรน 12ซี (
อังกฤษ: McLaren 12C) หรือที่รู้จักกันในชื่อ แม็คลาเรน เอ็มพี4-12ซี (
อังกฤษ: McLaren MP4-12C)
[3] เป็น
รถยนต์นั่งสมรรถนะสูง เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัท
แม็คลาเรน ออโตโมทีฟ บริษัทสัญชาติ
อังกฤษ รถได้เปิดตัวภายหลังการหายหน้าไปของรถจากค่ายแม็คลาเรน นับตั้งแต่สิ้นสุดสายการผลิต
แม็คลาเรน เอฟ1 ในปี ค.ศ. 1998 และในเดือนกันยายน ปี ค.ศ.2009 12ซี ก็ได้รับการเปิดตัว และเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางปี ค.ศ. 2011เอ็มพี4-12ซี ได้รับการออกแบบโดย แฟรงค์ สเตเฟนสัน (Frank Stephenson) นักออกแบบรถยนต์ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง รถทำจาก
คาร์บอน ไฟเบอร์ และกำลังจากเครื่องยนตร์กลางลำท้ายจากแมคลาเรน รุ่น M838T ขนาด 3.8 ลิตร วี8 ทวิน-เทอร์โบ สามารถทำกลังได้ถึง 592 แรงม้า (441 kW; 600 PS) และให้แรงบิดที่ 601 นิวตัว/เมตร (443 lb·ft) รถได้นำเทคโนโลยีจาก
ฟอร์มูลาวันมาปรับใช้ อาทิเช่น "เบรกพวงมาลัย" (Brake steer)
[4] ที่ทำให้ล้อหลังเบรกขณะทำความเร็วในช่วงโค้งเพื่อลดการเลี้ยวช้าของพวงมาลัย สำหรับระบบเกียร์ เป็นเกียร์ 7 จังหวะ ชนิดดูอัล-คลัทซ์รถสามารถทำความเร็วสูงสุดอ้างอิงจากค่ายรถได้ถึง 333 กม./ชม. (207 ไมล์/ชม.)
[5] แต่จริงแล้วสามารถทำได้ถึง 343 กม./ชม. (213.2 ไมล์/ชม.)
[6] อ้างอิงจากสปอร์ตออโต้.ดีอี ในส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อ้างอิงจาก แดรกไทม์.คอม ได้โพสต์ลงยูทูปว่า 12ซี สามารถทำได้ที่ 2.8 วินาที
[7] จึงเป็นรถที่แรงที่สุดอันดับที่ 3 ที่มีขายในท้องตลาด ในขณะนั้นโฉมเปิดประทุน ในปี ค.ศ. 2012 ใช้ชื่อใหม่ว่า
เอ็มพี4-12ซี สไปเดอร์ (MP4-12C Spider) ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 แม็คลาเรนก็ได้เปิดตัว รุ่นต่อมาของ 12ซี คือ
แม็คลาเรน 650เอส มาพร้อมกับการปรับปรุงส่วนของตัวถัง มีการพัฒนาเครื่องยนตร์และเทคโนเลยีทางเทคนิคอื่นๆ ในเดือนเมษายน 2014 แมคลาเรนก็ได้ยุติสายการผลิต 12ซี และให้ 650เอส มาเป็นรุ่นต่อไป
[8]